ดุอาอ์มุสตะญาบ (ตอนที่ 2)
อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสมีใจความว่า
ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม กล่าวมีใจความว่า
คำอธิบาย
เมื่อบ่าวคนหนึ่งยำเกรง (ตักวา) อัลลอฮ์ ตะอาลา และรักษาคำสั่งต่างๆ ของพระองค์อย่างเคร่งครัดในตอนที่เขามีความสุขสบาย นั่นแหละถือว่าเขาได้ทำความรู้จักกับอัลลอฮ์ ตะอาลา แล้ว ระหว่างเขาและพระองค์มีความรู้จักแบบพิเศษ (คอศเศาะฮ์) ต่อกัน ฉะนั้นพระองค์ย่อมรู้จักเขาในยามที่เขาประสบทุกข์ยาก ความรู้จักพิเศษนี้ (มะอฺริฟะฮ์) จะทำให้บ่าวคนนั้นใกล้ชิดกับพระองค์ ได้รับความรัก ความเอ็นดูจากพระองค์ และเมื่อใดที่เขาวิงวอนขอต่อพระองค์ คำวิงวอน (ดุอาอ์) ของเขาจะถูกตอบรับจากพระองค์ (มุสตะญาบ)
ท่านอิบนุร่อญับ ร่อฮี่มะฮุ้ลลอฮ์ ได้กล่าวว่า “การรู้จักอัลลอฮ์ ตะอาลา “มะอ์ริฟะฮ์” นั้นมีสองแบบ คือ แบบแรก การรู้จักแบบทัวไป (มะอฺริฟะฮ์ อามมะฮ์) คือ การรู้จักโดยการยอมรับ ยืนยันและศรัทธาต่อพระองค์ การรู้จักชนิดนี้จะเกิดขึ้นกับบรรดาผู้ศรัทธา (มุมินีน) ทั่วๆ ไป ส่วนการรู้จักแบบที่สองคือ การรู้จักกันแบบพิเศษ (มะอ์ริฟะฮ์ คอศเศาะฮ์) ซึ่งการรู้จักแบบนี้จะทำให้หัวใจทั้งดวงของบ่าวโน้มเข้าหาพระองค์ อุทิศตนเพื่อพระองค์ รู้สึกอุ่นใจและสงบมั่นที่ได้รำลึกถึงพระองค์ ละอาย (ฮะยาอ์) และมีความหวันเกรง (ฮัยบะฮ์) ที่จะละเมิดคำสั่งของพระองค์ ความรู้จักแบบพิเศษนี้ เฉพาะบรรดาผู้ที่ประจักษ์แจ้งในอัลลอฮ์ ตะอาลา (อาริฟูน) เท่านั้นจะได้สัมผัสกับมัน
มีรายงานว่า ในตอนที่ท่านนบียูนุส อะลัยฮิสสะลาม วิงวอนขอ (ดุอาอ์) ต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา ขณะที่ท่านอยู่ในท้องปลา (หูต) บรรดามลาอิกะฮ์ได้กล่าวว่า โอ้อัลลอฮ์เจ้า นี่เป็นเสียงที่ถูกรู้จัก ดังมาจากต่างแดน (บิลาด ฆ่อรีบะฮ์) อัลลอฮ์ อัซซ่ะ ว่ะญัลล่ะ ตรัสว่า พวกเจ้ารู้จักเสียงนั่นไหม พวกเขาตอบว่า เขาคือใคร พระองค์ตอบว่า เขาคือยูนุสบ่าวของข้า พวกเขาถามว่า ยูนุสบ่าวพระองค์ผู้ซึ่งอะมั้ลและดุอาอ์ของเขายังคงถูกยกขึ้นสำหรับเขาใช่ไหม พระองค์ทรงตอบว่า ใช่แล้ว พวกเขาจึงถามว่า โอ้ผู้ทรงอภิบาลของข้า พระองค์จะมิทรงเมตตาต่อเขา สิ่งที่เขาได้เคยกระทำในยามที่เขาเคยสุขสบายจะไม่ทำให้พระองค์ทรงช่วยเหลือเขาในยามที่เขาประสบเคราะห์กรรม (บะลาอ์) เลยหรือ พระองค์ตอบว่า หามิได้ และแล้วพระองค์ก็มีบัญชาแก่ปลานั้น แล้วมันก็พ่นเขาออกมาไปอยู่ที่โล่งริมฝั่ง
ท่านอัฏเฏาะห์หาก อิบนุ กอยซ์ กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจงรำลึกถึงอัลลอฮ์ในยามที่พวกท่านสุขสบายเถิด แน่นอนพระองค์จะทรงนึกถึงพวกท่านในยามที่พวกท่านยากลำบาก แน่แท้ท่านนบียูนุส อะลัยฮิสสะลาม เคยรำลึกถึงอัลลอฮ์ ตะอาลา เป็นประจำ ดังนั้นเมื่อท่านตกไปอยู๋ในท้องของปลา (หูต) พระองค์จึงตรัส มีใจความว่า
รายงานจากท่านซะอ์ อิบนิ ซะอฺด์ ร่อฏิยั่ลลอฮู่อันฮู่ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม กล่าวว่า ดุอาอ์ของซุนนูน (นบียูนุส) เมื่อเขาได้วอนขอในตอนอยู่ในท้องปลา
“ลา อิ ลาฮ่ะ อิ้ลลา อันต่ะ ซุบฮานะก่ะ อินนี กุนตุ มินัซซอลิมีน”
ไม่มีมุสลิมคนใดขอต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา ด้วยดุอาอ์บทนี้ เว้นเสียแต่จะถูกตอบรับ” (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์)
รายงานจากท่านอนัส อิบนุ มาลิก ร่อฏิยั่ลลอฮู่อันฮู่ กล่าวว่า ท่านนบี ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัมเมื่อมีเรื่องใดๆ ทำให้ท่านเศร้าใจ ท่านจะกล่าวว่า
(อัตติรมิซีย์ 3524 และอิบนุซซุนนีย์ ในหนังสืออะมัล อัลเยาม์ วั่ลลัยละฮ์ 337)
สรุปบทเรียน
1. การตอบรับคำวิงวอนของอัลลอฮ์ ตะอาลา อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงสัญญาว่าจะตอบรับคำวิงวอนของผู้ที่ขอจากพระองค์ และเชิญชวนให้ผู้คนศรัทธาและตอบรับพระองค์เพื่อที่จะอยู่ในทางที่ถูกต้อง (ซูเราะฮ์อัลบะก่อเราะฮ์ : 186)
2. ความสัมพันธ์พิเศษกับอัลลอฮ์ ตะอาลา การทำความรู้จักกับอัลลอฮ์ ตะอาลา ในยามสุขสบาย จะทำให้พระองค์ทรงรู้จักเราในยามทุกข์ยาก เป็นการสร้างความสัมพันธ์พิเศษที่จะนำมาซึ่งการได้รับความรักและตอบรับจากดุอาอ์ (อิบนุร่อญับ)
3. การรู้จักอัลลอฮ์สองรูปแบบ การรู้จักแบบทั่วไปคือการยอมรับและศรัทธา ในขณะที่การรู้จักแบบพิเศษจะทำให้ผู้ศรัทธานั้นรู้สึกอุ่นใจและใกล้ชิดกับพระองค์ยิ่งขึ้น (อิบนุร่อญับ)
