คุตบะฮ์ : หวนคืนสู่ความเมตตาของอัลลอฮ์ ตะอาลาเถิด
โดย มุฮัมมัดอาดัม (เสรี) พวงมณี
พี่น้องผู้ศรัทธาที่มีเกียรติทุกท่านครับ อัลลอฮฺ ตะอาลา ได้ตรัสว่า
ความว่า “และท่านทั้งหลายจงขออภัยโทษตอองค์อภิบาลของพวกท่านเถิด ต่อจากนั้นพวกท่านก็จงขอสารภาพผิดต่อพระองค์ แน่นอนพระองค์ย่อมประทานความสุขอันงดงามแก่พวกท่านตราบถึงวาระที่ถูกกำหนดไว้ (โดยพระองค์) และพระองค์จะทรงประทานความโปรดปรานของพระองค์แก่ผู้ประพฤติดีงาม และหากพวกท่านหันหลังให้ แน่นอน ฉันเกรงว่าพวกท่านจะประสบกับการลงโทษในวันอันยิ่งใหญ่” (ซูเราะฮ์ฮู๊ด : 4)
คำตักเตือนที่ดียิ่ง
คำตักเตือนที่ดียิ่งคือ คือคำตักเตือนที่ออกมาจิตใจที่มุ่งหวังความโปรดปรานจากอัลลอฮฺ ตะอาลา โดยตักเตือนกันไปสู่การสำรวมตนต่อพระองค์เพียงพระองค์เดียว และสำหรับผู้ที่น้อมรับคำตักเตือนที่มาจากหลักธรรมคำสอนของอิสลามนั้นย่อมเป็นผู้ที่สถานะอันสูงส่ง ณ พระองค์เสมอ
เสื้อผ้าของนักเดินทาง
ศรัทธาชนที่รักทุกท่าน เราต่างเดินทางกันมาไกลพอสมควร บางท่านเดินทางมาแล้ว 20 ปี บางท่านอาจเดินทางมาแล้ว 40 ... 30 ... หรือ 50 ปี อาจมากกว่าหรือน้อยกว่านี้ แน่นอนเหลือเกินว่าเสื้อผ้าของเราทั้งหลายคงต้องเปรอะเปรื้อนสิ่งสกปรกกันมาบ้าง ทั้งที่เจตนาและพลั้งเผลอ
วิธีล้างรอยคราบ
อัลกุรฺอานโองการข้างต้นได้เสนอกรรมวิธีการชำระล้างคราบสกปรกดังกล่าวโดยบอกว่า การขออภัยโทษจากอัลลอฮ์ (อิสติฆฺฟารฺ) และการสนึกผิดด้วยการสารภาพบาป (เตาบะฮ์) ต่อพระองค์นั้นเป็นหน้าที่อันจำเป็นสำหรับมุสลิม (วาญิบ) ที่ไม่อาจละเลยหรือประวิงเวลาได้เลย ทั้งนี้ ผู้ที่ขออภัยโทษและสารภาพผิดต่อพระองค์นั้นย่อมมีวิถีชีวิตที่ดีทั้งในดุนยาและอาคิเราะฮ์ พระองค์พร้อมที่จะประทานชีวิตที่ดีงามและสดใสให้แก่เขาเสมอ ... แต่เขาผู้นั้นพร้อมที่จะย้อนกลับมาสู่พระเมตตาของพระองค์จริงๆ หรือไม่ ? ...ไม่ยาก หากคิดจะกระทำ และไม่ใช่หนทางที่ถูกต้องเลยหากจะยังคงจมปลักอยู่เช่นเดิม ... นักวิชาการอิสลามได้เสนอแนวทางสำหรับผู้ที่เคยพลาดพลั้งในชีวิตซึ่งต้องการชำระล้างจิตใจและชีวิตให้บริสุทธิ์ โดยสรุปไว้ดังนี้
1. ถอนตัวจากการกระทำที่ขัดกับบัญญัติของอิสลําม (มะอฺศิยะฮ์) ทันที
2. สารภาพผิดต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ด้วยความรู้สึกเสียใจต่อพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมที่ตนเคยกระทำ
3. ตัดสินใจแน่วแน่ว่าจะไม่กลับไปทำพฤติกรรมที่ไม่ดีไม่งามเช่นนั้นอีก
4. หากเคยล่วงเกินสิทธิของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ก็จะต้องจ่ายสิ่งชดเชยหรือขออภัย (มะอัฟ) ต่อเจ้าของสิทธินั้นๆ
นอกจากนี้ จะต้องพากเพียรกระทำกุศลกรรมให้มากยิ่งขึ้น ด้วยการปฏิบัติศาสนกิจ (อะมั้ล อิบาดะฮ์) ตามข้อบัญญัติต่างๆ ของอิสลาม (ฟัรฺดู) ให้ครบถ้วน และยังต้องให้ความสำคัญกับการประกอบศาสนกิจอาสา (สุนัต) ในรูปแบบต่างๆ เพิ่มเติมด้วย เช่น ละหมาดสุนัต บริจาคทาน ซิกรุ่ลลอฮฺ และอื่นๆ ... เราต้องไม่ลืมว่ํา บาปใหญ่จะถูกชำระได้ด้วยการขออภัยโทษและสารภาพผิดต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ส่วนบาปเล็กๆ นั้นจะถูกปลดเปลื้องได้ด้วยการตั้งใจกระทำสิ่งดีงามลบล้างความผิดพลาดที่ผ่านมาไม่ต้องรอให้ใครมาตรวจสอบ
พี่น้องผู้ศรัทธาผู้มีเกียรติ ณ อัลลอฮฺทุกท่ําน นักการค้าที่ดีมักตรวจสอบบัญชีการค้าของตนว่า ขาดทุนหรือกำไรมากน้อยเพียงใด เราเองในฐานะผู้ศรัทธาต่ออัลลอฮฺ ตะอาลา ก็ต้องตรวจสอบตนเองให้เนืองนิตย์ เช่นเดียวกันต้องปรับปรุงและแก้ไขข้อผิดพลาด เพื่อจะได้ยืนอยู่ในหมู่ชนผู้เป็นที่รักยิ่งของอัลลอฮฺ ตะอาลา ในวันกิยามะฮ์ ...
ท่านอุมัรฺ อิบนุ่ล ค๊อตต๊อบ ร่อฎิยั่ลลอฮู่อันฮู่ กล่าวว่า
“ท่านทั้งหลายจงตรวจสอบตัวของพวกท่านเอง ก่อนที่ท่านทั้งหลายจะถูกตรวจสอบ ท่านทั้งหลายจงชั่งตัวของพวกท่ําน ก่อนที่พวกท่ํานจะถูกนำไปชั่ง ท่านทั้งหลายจงเตรียมพร้อมเพื่อที่จะถูกนำไปพบกับอัลลอฮฺ ผู้ซึ่งพฤติกรรมต่างๆ ของพวกท่านมิอาจซ่อนเร้นจากพระองค์ได้เลย”
สุดยอดแห่งการขออภัยโทษ (ซัยยิดุ้ล อิสติฆฺฟารฺ) ท่านนบีมู่ฮัมมัด ศ๊อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่วะซั่ลลัม กล่าวว่า “สุดยอดแห่งการขออภัยโทษคือการกล่าวคำว่า
“โอ้อัลลอฮ์เจ้า พระองค์คือผู้อภิบาลของฉัน ไม่มีพระเจ้าอื่นใดที่เที่ยงแท้นอกจากพระองค์ พระองค์สร้างฉันขึ้นมา ฉันเป็นบ่าวของพระองค์ ฉันยึดมั่นอยู่กับข้อผูกพันและสัญญาของพระองค์เท่าที่ฉันสามารถ ฉันขอความคุ้มครองต่อพระองค์ให้พ้นจากความชั่วที่ฉันเคยกระทำ ฉันผูกพันอยู่กับพระองค์ด้วยความโปรดปรานของพระองค์ที่ทรงประทานแก่ฉัน ฉันขอสารภาพบาปของฉันต่อพระองค์ โปรดประทานอภัยโทษแก่ฉันด้วยเถิด แท้จริงไม่มีผู้ใดประทานอภัยโทษได้เลย นอกจากพระองค์เท่านั้น”
ผู้ใดกล่าวประโยคเหล่านี้ในตอนกลางวันในสภาพที่เขาแน่ใจ (ยะกีน) ฉะนั้นหากเขาสิ้นชีวิตก่อนเข้าสู่เวลาเย็น แน่นอนเขาย่อมเป็นคนหนึ่งจากชาวสวรรค์ และผู้ใดกล่าวประโยคเหล่านี้ในยามคำคืนในสภาพที่เขาเป็นผู้มีความแน่ใจ ดังนั้นหากเขาสิ้นชีวิตก่อนเข้าสู่ยามเช้า แน่นอนเขาย่อมเป็นคนหนึ่งจากชาวสวรรค์
(บันทึกโดยอัลบุคอรีย์ จากท่านชัดดาด อิบนุ เอาซ์)
