โดย มุฮัมมัดอาดัม (เสรี) พวงมณี
ความว่า “จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ, อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่งเสมอ, พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ, และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์”
(ซูเราะฮฺอันนาส : 1-6)
ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับซูเราะฮนี้
1. ซูเราะฮฺนี้มีชื่อว่า “ซูเราะฮฺอัลอิคลาศ” เป็นซูเราะฮฺ “มักกียะฮฺ” ถูกประทานก่อนการอพยพไปนครมะดีนะฮฺ
2. มี 4 อายะฮฺ (โองการ), มี 15 คำ, มี 47 อักษร, เป็นซูเราะฮฺอันดับที่ 112 ในการเรียบเรียงมุศฮัฟอัลกุรอาน และอยู่ในญุซที่ 30
สาเหตุการประทานโองการ
รายงานจากท่านอุบัยย์ อิบนุ กะอฺบ์ ระบุว่า บรรดามุชริกีนได้กล่าวแก่ท่านนบี ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ว่า โอ้มุฮัมมัด จงบอกเชื้อสายวงศ์ตระกูล (นะซับ) ของพระเจ้าของเจ้าแก่พวกเราเถิด อัลลอฮฺ ตะอาลา จึงประทานโองการลงมา ใจความว่า “จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ, อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่ง, พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ, และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์” รายงานโดยอัตติรมิซีย์ (ตัฟซีร อิบนุ กะษีร สืบค้นจาก https://www.islamweb.net)
ความประเสริฐของซูเราะฮฺนี้
รายงานจากท่านอนัส ร่อฎิยั่ลลอฮู่อันฮู่ กล่าวว่า แท้จริงชายคนหนึ่งกล่าวว่า “โอ้ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ แท้จริงฉันรักซูเราะฮฺกุ้ลฮุวั่ลลอฮู่อะฮัดนี้ ท่านนบี ศ็อลลัลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม จึงกล่าวว่า “แท้จริงความรักของท่านที่มีต่อมัน จะทำให้ท่านได้เข้าสวรรค์” (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์ และอัตติรมิซีย์กล่าวว่า เป็นฮะดีษหะซัน-มีสายรายงานที่ดี)
รายงานจากท่านอบีสะอีด อัลคุดรีย์ ร่อฎิยัลลอฮู่อันฮู่ แท้จริงมีชายคนหนึ่งได้ยินชายอีกคนหนึ่งอ่านซูเราะฮฺกุ้ลฮุวั่ลลอฮู่อะฮัด ซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้ง ครั้นเมื่อถึงเวลาเช้า เขาจึงไปหาท่านร่อซูล ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม และเล่าเรื่องดังกล่าวให้ท่านฟัง ดังกล่าวนั้นประหนึ่งว่าเขาเห็นว่ามันเป็นอะมัลที่เล็กน้อย ท่านร่อซูลุ่ลลอฮฺ ศ้อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม จึงกล่าวว่า “ขอสาบานต่ออัลลอฮฺผู้ซึ่งชีวิตของฉันอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์ แท้จริงซูเราะฮฺนี้ (คุณค่าของมัน) เทียบเท่าเศษหนึ่งส่วนสามของอัลกุรอาน” (บันทึกโดยอัตติรมิซีย์)
คำอธิบาย
1. “จงกล่าวเถิด มุฮัมมัด พระองค์คืออัลลอฮฺผู้ทรงเอกะ” อธิบายได้ว่า อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงเป็นหนึ่งเดียวในซาต คุณลักษณะ (ศิฟาต) คำพูดและการกระทำ (อัฟอาล) ของพระองค์ ไม่มีภาคีใดๆ ร่วมกับพระองค์ในเรื่องดังกล่าว
2. “อัลลอฮฺนั้นทรงเป็นที่พึ่งเสมอ” อัศศ่อมัด (ผู้ทรงเป็นที่พึ่งเสมอ” หมายถึง พระองค์ทรงสมบูรณ์ สรรพสิ่งทั้งหลายล้วนมีความต้องการและจำเป็นต้องพึ่งพาพระองค์ นักวิชาการบางท่านกล่าวว่า หมายถึง พระองค์ทรงดำรงอยู่ด้วยพระองค์เอง และพระองค์ทรงอุปถัมภ์สรรพสิ่งทั้งหลาย
3. “พระองค์ไม่ประสูติ และไม่ทรงถูกประสูติ” กล่าวคือ พระองค์ไม่ทรงมีบุตรและบิดา พระองค์มิทรงเป็นบุตรของผู้ใด และพระองค์มิใช่บิดาของผู้ใด เพราะลักษณะการมีบุตรและบิดา เป็นลักษณะของสิ่งที่
บังเกิดขึ้นใหม่ และมีวันต้องสูญสลาย ซึ่งไม่ใช่คุณลักษณะของระองค์ – มหาบริสุทธิ์ยิ่งแด่พระองค์
4. “และไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนพระองค์” อธิบายได้ว่า พระองค์มิทรงมีคู่ครอง ไม่มีสิ่งใดเหมือนพระองค์
ไม่มีสิ่งใดคล้ายพระองค์ และไม่มีสิ่งใดเสมอหรือเทียมเท่ากับพระองค์
บทเรียนที่ได้รับจากซูเราะฮฺนี้
1. เอกภาพของพระอัลลอฮฺ ตะอาลา ซูเราะฮฺนี้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเข้าใจและยอมรับว่า อัลลอฮฺ ตะอาลา ทรงเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีใครเทียบเท่า หรือเป็นเหมือนพระองค์ ซึ่งช่วยเสริมสร้างความศรัทธาอย่างหนักแน่นในศาสนาอิสลาม
2. ความรักและการพึ่งพิง พระองค์เป็น “อัศศ่อมัด” หรือทรงอยู่ไม่ขึ้นกับสิ่งใด และเป็นผู้ให้ที่ไม่ต้องการอะไรจากสิ่งที่พระองค์ทรงสร้าง (มัคลูก) พระองค์ทรงเป็นที่พึ่งของเราเสมอ
3. มุมมองต่อพระองค์ ซูเราะฮฺนี้ช่วยให้เราได้เรียนรู้ถึงความสำคัญของการมองอัลลอฮฺ (ตะอาลา) ในแง่บวก มีความหวัง (ร่อญาอฺ) ในพระองค์ และเป็นแรงบันดาลใจในการดำเนินชีวิตของเราให้สอดคล้องกับหลักการของอิสลาม
4. การเชื่อมโยงกับชีวิตประจำวัน การเข้าใจเอกภาพ (เตาฮีด) ของอัลลอฮฺ ตะอาลา จะนำเราไปสู่การพัฒนาคุณธรรมในชีวิตประจำวัน ทั้งในด้านการทำงาน การปฏิบัติต่อผู้อื่น และการใช้ชีวิตในการทำความดี
วั่ลลอฮู่อะอฺลัม (อัลลอฮฺ ตะอาลา เท่านั้นที่ทรงรอบรู้ยิ่ง)