1 นาทีในการอ่าน
การศึกษาในอิสลาม

เราได้ทราบจากเรื่องราวการสร้างอาดัมในอัลกุรอานว่า เมื่ออัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงสร้างอาดัมขึ้นมาเป็นบิดาของมนุษย์นั้น พระองค์ทรงกล่าวให้เกียรติแก่มนุษย์ว่าพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อเป็น "ตัวแทน" ของพระองค์บนหน้าแผ่นดิน ดังที่ปรากฎในอัลกุรอาน ความว่า

"และจงนึกถึงเมื่อตอนที่พระผู้อภิบาลของสูเจ้าได้ตรัสแก่บรรดามลาอิกะฮ์ว่า แท้จริงฉันจะสร้างตัวแทนขึ้นมาบนหน้าแผ่นดิน ..." (ซูเราะฮ์อัลบะก่อเราะฮ์ อายะฮ์ที่ 30)

แต่การที่มนุษย์จะเป็นตัวแทนของพระองค์ได้นั้น มนุษย์จำเป็นต้องมีความรู้และความสามารถ ดังนั้นอัลลอฮ์ ตะอาลา จึงสอนนามต่างๆ ให้แก่อาดัม ซึ่งหมายถึงอัลลอฮ์ ตะอาลา ได้ประทานความรู้นั้นแก่มนุษย์ผู้เป็นลูกหลานของอาดัมด้วยเช่นกัน ด้วยความรู้ของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่อาดัมได้รับนี้เอง อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้เกียรติแก่มนุษย์จนถึงกับพระองค์ได้ทรงบัญชาให้ทุกสรรพสิ่งยอมสยบนบนอบต่ออาดัม นั่นหมายความว่านับแต่นี้ต่อไป ถ้าลูกหลานของอาดัมหรือมนุษย์ต้องการจะเอาน้ำที่ไหลอยู่ในแม่น้ำมาใช้ในการสร้างไฟฟ้าโดยการสร้างเขื่อน แม่น้ำต้องยอมปฏิบัติตามอาดัม หรือถ้าหากว่ามนุษย์ต้องการจะให้เหล็กขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศในรูปของเครื่องบิน หรือลอยอยู่ในน้ำในรูปของเรือขนาดมหึมา เหล็กที่โดยธรรมชาติมีน้ำหนักมากกว่าน้ำต้องยอมจำนนต่อความรู้ของมนุษย์

จากเรื่องราวการสร้างอาดัมทำให้เราเห็นว่า ความรู้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการแตกต่างไปจากสัตว์ ในอดีตมนุษย์เคยอาศัยอยู่ในถ้ำ แต่ด้วยความรู้ที่มนุษย์ได้รับอย่างต่อเนื่องทำให้มนุษย์มีวิวัฒนาการในการสร้างที่อยู่อาศัยจากกระท่อมเป็นบ้านไม้และเป็นตึกสูงระฟ้าในที่สุด ความรู้อีกเช่นกันที่ทำให้มนุษย์ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกและความเจริญก้าวหน้าต่างๆ แต่ถึงแม้มนุษย์จะมีความรู้ก็ตามประวัติศาสตร์ได้ยืนยันให้เรารู้ว่าหากมนุษย์นำความรู้ไปใช้ในทางที่ผิด มนุษย์ย่อมจะได้รับความหายนะ และถ้ามนุษย์ไม่มีความรู้ มนุษย์ก็จะล้าหลัง

ด้วยเหตุนี้ อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงให้มีนบีขึ้นมาในหมู่มนุษย์เพื่อสอนความรู้ในการใช้ชีวิตและทรัพยากรที่พระองค์ประทานมา คำสั่งแรกที่อัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงให้มลาอิกะฮ์นำมายังท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ดังปรากฎในอัลกุรอาน ความว่า

"จงอ่านด้วยพระนามของพระผู้อภิบาลของเจ้าผู้ทรงสร้าง, ผู้ทรงสร้างมนุษย์มาจากก้อนเลือด, จงอ่านเถิด พระผู้อภิบาลของเจ้านั้นทรงเกียรติยิ่ง, ผู้ทรงสอนมนุษย์ด้วยปากกา, ทรงสอนมนุษย์ในสิ่งที่เขาไม่รู้ (ซูเราะฮ์อัลอะลัก อายะฮ์ที่ 1-5)

คำสั่ง "จงอาน" จึงเป็นคำสั่งแรกของอัลกุรอาน เพราะการอ่านเป็นวิธีการเริ่มต้นของการเรียนรู้

ในยุคก่อนอิสลามชาวอาหรับมีชีวิตอยู่ในสภาพงมงาย ป่าเถื่อนและไร้อารยธรรม ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ได้ถูกส่งมาปฏิรูปชาวอาหรับป่าเถื่อนเหล่านี้ ด้วยการอ่านถ้อยคำของอัลลอฮ์ ตะอาลา ที่ประทานมาให้ชาวอาหรับที่ไม่มีความรู้ได้ฟังนี้เองที่ทำให้ชาวอาหรับเป็นมุสลิม และด้วยการที่ชาวอาหรับอ่านถ้อยคำของอัลลอฮ์ ตะอาลา จากอัลกุรอานซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างตรึกตรอง ทำให้ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ประสบความสำเร็จในการเปลี่ยนแปลงคนอาหรับที่เคยเคารพกราบไหว้รูปปั้นต่างๆ หันมารับนับถือศาสนาอิสลามทั้งคาบสมุทรอาระเบียภายในเวลา 23 ปี ไม่เพียงเท่านั้น ชาวอาหรับเหล่านี้ยังนำคำสอนอิสลามไปยังส่วนต่างๆ ของโลกและมีส่วนทำให้อิสลามเป็นแหล่งอารยธรรมแห่งหนึ่งของโลกด้วย

ในการปฏิบัติภารกิจแห่งการเป็นศาสนทูตของอัลลอฮ์ ตะอาลา ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาแก่คนของท่านเป็นอย่างมาก เพราะท่านรู้ว่าการเปลี่ยนแปลงหรือการพัฒนาสังคมจะต้องเริ่มที่การพัฒนามนุษย์ และมนุษย์ไม่อาจพัฒนาได้ถ้าไม่ีการศึกษา ดังนั้นท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม จึงทำทุกวิถีทางที่จะทำให้คนมีการศึกษา เช่น จัดการอบรมสาวกของท่านเป็นประจำในบ้านของอัรฺกอม ท่านได้สั่งให้สาวกของท่านนำคำสอนของท่านไปเผยแผ่แม้จะเป็นเพียงสักประโยคหนึ่งก็ตาม ก่อนทำศึกป้องกันการรุกรานครั้งแรกที่บะดัรฺ ท่านได้สอนสาวกของท่านให้รู้จักกฎระเบียบในการศึก แม้แต่หลังสงคราม ฝ่านมุสลิมสามารถจับศัตรูไว้เป๋นเชลยได้หลายคน โดยปกติแล้ว บั้นปลายของเชลยคือการถูกฆ่าหรือไม่ก็ตกเป็นทาสหากไม่มีการแลกเปลี่ยนเชลยกัน หรือหากไม่มีญาติเอาเงินมาไถ่ตัวไป แต่ท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ได้ประกาศว่าใครที่สามารถสอนมุสลิมให้อ่านออกเขียนได้สิบคนจะได้รับการปล่อยตัวให้เป็นอิสระ

อ้างอิง

หนังสือเรียนอิสลามศึกษา ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ระบอบการดำเนินชีวิตในอิสลาม, กระทรงศึกษาธิการ, ครั้งที่ 1, 2553, หน้า 103-105