การศรัทธาต่อมะลาอิกะฮ์ กิรอมันง์กาติบีน

ท่านอิมามฏ่อฮาวีย์ ร่อฮี่มะฮุ่ลลอฮ์ ได้กล่าวว่า ส่วนหนึ่งจากหลักศรัทธาของอะฮ์ลุซซุนนะฮ์ วั่ลญะมาอะฮ์ คือการศรัทธาต่อบรรดามลาอิกะฮ์ กิรอมันง์กาติบีน ซึ่งอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงตรัสเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่า

ความว่า “และแท้จริงมีผู้คุ้มกันรักษาพวกเจ้าอยู่ , คือ (มะลาอิกะฮฺ) ผู้ทรงเกียรติเป็นผู้บันทึก , พวกเขารู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ” (ซูเราะฮ์อัลอินง์ฟิฏอรฺ 10-12)

อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัส

ความว่า “จงรำลึกขณะที่มะลาอิกะฮ์ผู้บันทึกสองท่านบันทึก ท่านหนึ่งนั่งทางข้างขวา และอีกท่านหนึ่งนั่งทางข้างซ้าย ,  ไม่มีคำพูดคำใดที่เขากล่าวออกมา เว้นแต่ใกล้ๆ เขานั้นมี (มะลัก) ผู้เฝ้าติดตาม ผู้เตรียมพร้อม (ที่จะบันทึก)”(ซูเราะฮ์กอฟ : 17-18)

ท่านอิมามบุคอรีย์และอิมามมุสลิมได้รายงานจากฮะดีษของท่านอบีฮุรอยเราะฮ์ ร่อฎิยั่ลลอฮู่อันฮู่ ว่าแท้จริงท่านนบีมุฮัมมัด ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม ได้กล่าว

ความว่า “มีบรรดามลาอิกะฮ์ประจำเวลากลางคืนและบรรดามลาอิกะฮ์ประจำเวลากลางวันคอยสลับผลัดเปลี่ยนกันมาหาพวกท่าน และพวกเขาจะมารวมกันในเวลาละหมาดฟะญัร (ศุบฮิ) และละหมาดอัศรี่ ต่อมาบรรดามลาอิกะฮ์ที่อยู่กับพวกท่านในเวลากลางคืนก็จะขึ้นไปเข้าเฝ้า (อัลลอฮ์ผู้ทรงอภิบาล) พระองค์จะตรัสถามพวกเขาในสภาพที่พระองค์รอบรอบรู้ดี “พวกเจ้าได้ผละออกมาจากบรรดาบ่าวของข้าในสภาพที่เป็นอย่างไร” บรรดามลาอิกะฮ์เหล่านั้นจะตอบว่า “เราผละออกมาจากพวกเขาในสภาพที่พวกเขาละหมาด และเรากลับไปหาพวกเขาในสภาพที่พวกเขาละหมาด”           

อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัส

ความว่า “สำหรับเขามีมะลาอิกะฮฺผู้เฝ้าติดตามทั้งข้างหน้าและข้างหลังเขา รักษาเขาตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ ...” (ซูเราะฮ์อัรฺเราะอฺด์ : 11)

ท่านอิบนุกะษีรฺ กล่าวว่า “บ่าวแต่ละคนจะมีบรรดามะลาอิกะฮ์คอยสับเปลี่ยนกันมาหาเขา เขาจะถูกเฝ้าในตอนกลางคืนและในตอนกลางวัน มะลาอิกะฮ์เหล่านี้จะคอยมาปกป้องคุ้มครองเขาให้พ้นจากสิ่งเลวร้ายและอุบัติเหตุต่างๆ ในทำนองเดียวกันก็จะมีบรรดามะลาอิกะฮ์อีกกลุ่มหนึ่งมาคอยจดบันทึกอะมั้ลความดีและความชั่วที่บ่าวกระทำ มะลาอิกะฮ์ในตอนกลางคืนและมะลาอิกะฮ์ในตอนกลางวัน

ดังนั้นจะมีมะลาอิกะฮ์สองท่านอยู่ทางขวาและทางซ้ายคอยจดอะมั้ล ซึ่งผู้ที่อยู่ทางขวาจะจดบันทึกอะมั้ลความดีที่เขาปฏิบัติ และมะลาอิกะฮ์จะจดบันทึกความชั่วที่เขาทำ และมีมะลาอิกะฮ์อีกสองท่านที่ทำหน้าที่คุ้มครองปกป้องเขานั้นจะอยุ่ด้านหลังและด้านหน้าของเขา 

สรุปได้ว่า จะมีมะลาอิกะฮ์สี่ท่านอยู่ประจำกายมนุษย์ในตอนกลางวันและในตอนกลางคืนหมุนเวียนผลัดกันมา แต่ละรอบจะมีมะลาอิกะฮ์สองท่านคอยปกป้องคุ้มครองบ่าวและสองท่านคอยจดบันทึกความดีความชั่ว” (ตัฟซีร อิบนุกะษีร เล่ม 8 หน้า 114-115 อ้างในอัดดุรอร อันมุตะกอ เล่ม 4 หน้า 195-196)           

ปรากฎในฮะดีษกุดซีย์ อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสไว้มีใจความว่า 

“เมื่อบ่าวคนใดของข้าเจตนาทำความชั่ว พวกเจ้าทั้งหลายอย่าเพิ่งจดบันทึก จนกว่าเขาจะทำความชั่วนั้น หากเขากระทำความชั่วนั้น พวกเจ้าจงจดความชั่วเพียงหนึ่งเท่า และหากเขาจะทิ้งมัน พวกเจ้าจงจดบันทึกความดีแก่เขาหนึ่งความดี และเมื่อบ่าวคนใดของข้าเจตนาทำความดีแล้วเขาไม่ได้กระทำความดีนั้น พวกเจ้าจงจดบันทึกให้เขาหนึ่งความดี และหากว่าเขาได้กระทำความดีนั้น พวกเจ้าจงจดบันทึกความดีแก่เขาสิบเท่าจนกระทั่งถึงเจ็ดร้อยเท่า” (มุตตะฟะกุน อะลัยฮิ์)

ผลสะท้อนอันเนื่องจากการศรัทธา (อีมาน) ต่อมะลาอิกะฮ์กิรอมันง์-กาติบีน 

1. ให้สำนึกเสมอว่าอัลลอฮ์ ตะอาลา ทรงสอดส่องพฤติกรรมของบ่าวตลอดเวลา 

2. ให้มีความละอาย (ฮะยาอ์) ต่อบรรดามะลาอิกะฮ์กิรอมันง์-กาติบีน 

3. ให้พากเพียรประกอบคุณงามความดีให้มาก เพื่อบรรดามะลาอิกะฮ์กิรอมันง์-กาติบีน จะได้นำไปรายงานต่ออัลลอฮ์ ตะอาลา 

4. บรรดามะลาอิกะฮ์รักบรรดาผู้ประพฤติดี 

5. ละเว้นการกระทำในสิ่งที่บรรดามะลาอิกะฮ์กิรอมันง์กาติบีนไม่ชอบ เช่น ไม่รับประทานหัวหอมและกระเทียม เป็นต้น 

6. ให้ทำในสิ่งที่บรรดามะลาอิกะฮ์ชื่นชอบ เช่น ดูแลรักษาร่างกาย เสื้อผ้าและที่อยู่อาศัยให้สะอาดอยู่เสมอ ใช้ของหอม ศอละวาตแก่ท่านนบี ศ็อลลั่ลลอฮู่อะลัยฮี่ว่ะซั่ลลัม และประกอบความดีเป็นเนืองนิจ 

วั่ลลอฮู่อะอฺลัม บิศศ่อวาบ (อัลลลฮ์ ตะอาลา ทรงรอบรู้ดียิ่ง)